แต่ครั้นเมื่อลงมือทำงานจัดการความรู้จริงๆ อำนาจกลับเป็นสิ่งแรกที่ต้องละวาง เราจะไม่สามารถเอาความรู้แฝงที่อยู่ภายในตัวบุคคลแต่ละคนออกมาได้เลย หากเราเอาอำนาจเข้าข่มขู่ หรือแม้กระทั่งเอาหน้าที่ เพราะธรรมชาติของการเรียนรู้และการถ่ายทอดความรู้จะเกิดขึ้นได้ดีในภาวะที่ผ่อนคลาย (และใครๆ ที่เพลินฯ ก็ทราบเรื่องนี้ดี) สิ่งที่พวกเราทำกันคือทำให้วงประชุมกลายเป็นวงสุนทรียสนทนา ภาวะแบบนั้นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสมาชิกที่ร่วมวงนั้นเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน การฟังกันอย่างลึกซึ้ง การไม่ด่วนตัดสิน ...เมื่อความปลอดภัยเกิดขึ้นกับผู้ร่วมวงสนทนา ความรู้และความรู้สึกดีๆ ก็จะหลั่งไหลออกมาดังที่นักจัดการความรู้ปรารถนา จากนั้นจะเอาความรู้นั้นไปทำอะไรก็ตามแต่ใจจะปรารถนา
กติกาหรือวาระของการพูดคุยกันของวงประชุมแบบนี้คือ การหยิบยกเรื่องความสำเร็จ หรือเรื่องดีงามต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาเล่าสู่กันฟัง เอามาแชร์เพื่อให้เป็นประสบการณ์ร่วม แล้วนำไปขยายผลต่อ เรื่องเล็กๆ ที่ดีงามเหล่านี้ จะนำพาจิตใจให้เบิกบาน เมื่อเบิกบานก็เรียนรู้ได้ดี ในจังหวะที่พอเหมาะพอดี แต่ถ้าเราเริ่มต้นที่ปัญหาก่อน จิตก็จะไม่เบิกบานรับการเรียนรู้ เมื่อเป็นดังนั้นการเรียนรู้ย่อมไม่เกิดขึ้น
|