หลังจากนั้นเวลามีหนังสือมาครูม่อนก็จะเปิดอ่านคร่าวๆ และดึงประโยคดีๆ และทิ้งท้ายไว้ให้เด็กๆ สนใจ เช่น เมื่อดีจังนำหนังสือเรื่องเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาลมา แล้วมีการเขียนว่าดาวอะไรเปรียบเสมือนเป็นเพื่อนของโลก ครูม่อนก็ใช้ประโยคนี้มาเป็นคำถามให้กับเด็กๆ คนอื่นๆ ว่า ใครอยากรู้ว่าเพื่อนของโลกคืออะไร ลองไปอ่านหนังสือที่ดีจังเอามาสิ แล้วจะรู้คำตอบ ก็จะเห็นได้ชัดว่าเด็กเริ่มอ่านหนังสือกันมากขึ้น |
|
พอมาช่วงหลังๆ เด็กสนใจที่จะอ่านหนังสือเกี่ยวกับตำนานผีญี่ปุ่น ที่มีลักษณะเป็นเรื่องเล่า ที่บางเล่มอ่านกันจนหนังสือเริ่มขาด ครูม่อนก็ให้ช่วยกันดูแล ซ่อมแซมหนังสือให้ดี |
|
ปัจจุบันนี้ ก็ยังมีเด็กมาอ่านหนังสือในช่วงเช้า กลางวัน และตอนเย็น และจะมีประมาณ ๕ - ๖ คนที่อ่านอย่างสม่ำเสมอ คนอื่นๆ ก็อ่านบ้าง |
|
กิจกรรมแลกเปลี่ยนหนังสือกันอ่าน ไม่ได้มีการกำหนดรอบของระยะเวลาที่แน่นอน แต่สังเกตว่าเมื่อใดที่ครูกระตุ้น ด้วยการแนะนำหนังสือ ก็จะมีหนังสือใหม่ๆ มาเปลี่ยนที่ชั้น |
|
Key Success Factor ที่สำคัญของกิจกรรมนี้คือ ครูต้องกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง และทิ้งคำถามที่น่าสนใจไว้ให้ติดตามอ่าน |
|
สิ่งที่ครูม่อนจะทำต่อ คือ ยกประเด็นเรื่องที่เด็กกำลังสนใจมาพูดคุยกับเด็ก เช่น เรื่องที่....เอามาเยี่ยมมากเลยนะ ใครมีหนังสือที่มีเนื้อหาคล้ายแบบนี้บ้างไหม เอามาอ่านที่โรงเรียนกัน |
|
|
ครูนุ่นกระตุ้นด้วยการเล่าถึงหนังสือดีๆ ที่ได้อ่านมาแลกเปลี่ยนให้กับเด็กๆ ฟัง เช่น เรื่องความสุขของกะทิ โชคดีที่ภูอินทร์เคยอ่าน ครูนุ่นจึงผลักดันให้ภูอินทร์เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนๆ ก็รู้สึกทึ่งว่าภูอินทร์จะอ่านและตอบคำถามจากเรื่องนี้ได้ดีมาก พอทำกิจกรรมนี้ไปแล้ว ก็พบว่ามีเด็กกระตือรือร้นที่จะอ่านมากขึ้น |
|
ปีบเป็นเด็กอีกคนหนึ่งที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่รักการอ่านมาก และที่บ้านก็มีหนังสือเยอะมาก แต่ปีบก็ไม่ได้อยากที่จะอ่านเลย ก่อนหน้านี้ครูให้ปีบนำหนังสือมา ปีบก็เอามาหลายเล่ม แต่ก็เอามาเพราะทำตามหน้าที่เท่านั้น แต่หลังจากที่ได้ทำกิจกรรมนี้แล้วปีบก็ให้ความสนใจกับการอ่านหนังสือมากขึ้นมากขึ้น |
|
มัดหมี่ก็เป็นเด็กอีกคนหนึ่งที่อ่านหนังสือมากขึ้นเพราะกิจกรรมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้อ่านแต่การ์ตูนช่อง ส่วนบิวท์ก่อนหน้านี้ไม่เคยอ่านเลย และขณะนี้ก็ยังอ่านต่อเนื่องอยู่ บิวท์พูดสะท้อนว่า “หนังสือมีอะไรอย่างนี้ด้วยหรือ ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะ” ครูนุ่นเล่าว่าขนาดวันที่มีงานปาร์ตี้ที่โรงเรียนบิวท์ยังหลบมานั่งอ่านหนังสือเลย ส่วนเฟอร์ที่ไม่เคยอ่านหนังสือเลยเลย พอเริ่มอ่านก็มีเรื่องกลับไปถามคุณพ่อคุณแม่บ้างแล้ว ทำให้ครูนุ่นรู้สึกว่าประสบผลสำเร็จดี เพราะเด็กที่ไม่เคยสนใจอ่านหนังสือเลย ก็มาเริ่มหันมาอ่านบ้างแล้ว |
|
วิธีการที่ครูนุ่นใช้ คือ การแนะนำหนังสือประเภทหนังสือแปล วรรณกรรมเยาวชน และพยายามเลือกให้มีความหลากหลาย โดยจะเลือกมาหนึ่งเล่มที่น่าสนใจที่สุดออกมาแนะนำ แล้วบอกกับเด็กๆ ว่า “แต่ครูนุ่นขอไปอ่านก่อนนะ” พออ่านเสร็จมาวางคืนไว้ที่ชั้นหนังสือ แล้วหนังสือเล่มนั้นก็จะมีเด็กมาอ่านต่อ และมารอต่อคิวอ่านอีกหลายคนทีเดียว |
|
ประเด็นที่ครูนุ่นจะทำต่อไปคือ ให้เด็กๆ มาแลกเปลี่ยนกันว่าหลังจากที่หันมาอ่านหนังสือแล้วชีวิตของพวกเขามีอะไรเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างไหม |
|
|
วิธีที่ ๑. ใช้เวลาสบายๆ ของครอบครัวเพื่อส่งเสริมการอ่าน |
วิธีที่ ๒. เลือกหนังสือดีที่เด็กสนุก |
วิธีที่ ๓. ให้เด็กได้รู้เรื่องราวหลากหลายจากพหุวัฒนธรรม |
วิธีที่ ๔. มีกิจกรรมพัฒนาทักษะการคิด |
วิธีที่ ๕. ใช้ทักษะนาฏการในการเล่า |
วิธีที่ ๖. ใช้กิจกรรมศิลปะเชื่อมโยงกับการอ่าน |
วิธีที่ ๗. สอนให้รู้จักสกัดความรู้และจับใจความสำคัญ |
วิธีที่ ๘. ต่อยอดจากประสบการณ์เดิมของผู้เรียน |
วิธีที่ ๙. นำเด็กสู่โลกแห่งวรรณคดี |
วิธีที่ ๑๐. พัฒนาทักษะไพรัชภาษาพาสู่โลกกว้าง |
|