 |
|
ลมข้าวเบา...เงาเดือนเพ็ญ
โดย ผู้จัดการออนไลน์
12 พฤศจิกายน 2551
|
ช่วงเดือน ๑๑ และ ๑๒ ของไทยจะมีลมว่าว เป็นลมเย็นสดชื่นที่พัดจากทางเหนือตามลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา หรือจากทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ในช่วงต้นของฤดูหนาว กลายเป็นลมเย็นสบาย พัดมาในช่วงเวลาที่น้ำเปี่ยมฝั่ง ข้าวเต็มนา ปลาเต็มหนอง ท้องฟ้าแจ่มใสกระจ่าง พืชพันธุ์เขียวชอุ่ม ลมนี้พัดมาพร้อมกับของขวัญจากท้องนาคือ ข้าวชุดแรกที่สุกเร็ว ซึ่งเรียกกันว่า ข้าวเบา ลมแห่งความสุขนี้ จึงถูกขานเรียกกันว่า ลมข้าวเบา
|
| |
| |
เนื่องจากเกิดในระยะเก็บเกี่ยวข้าวที่ให้ผลเร็ว ซึ่งจะเก็บเกี่ยวในเดือน ๑๒ เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบาย น้ำใสเต็มตลิ่งหลังฤดูฝน จันทร์กระจ่างฟ้าเนื่องด้วยเป็นช่วงฟ้าใส ปลอดเมฆฝน ชาวบ้านว่างจากไร่นาที่ลงแรงหว่านผลไว้เมื่อคราวฤดูฝน เป็นช่วงที่เริ่มต้นฤดูหนาวที่สดชื่น แจ่มใส ฤดูแห่งการรอคอยที่จะเก็บเกี่ยวผลที่ลงไว้ จึงเกิดมีประเพณีรื่นเริงของชาวบ้าน ในช่วงเดือน ๑๑-๑๒ นี้ นับตั้งแต่ประเพณีวันสารท วันออกพรรษา ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว ลงแขกจับปลา การเที่ยวทุ่ง (ปิคนิคโบราณด้วยการพายเรือ) การละเล่นต่างๆ การเล่นเพลงพื้นบ้านต่างๆ
|
 |
| |
|
| |
|
| และที่เป็นจุดเด่นของเทศกาลในช่วงนี้คือ ประเพณีลอยกระทง ซึ่งเป็นการรู้คุณค่าต่อธรรมชาติ ที่นำความสุข ความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชีวิต โรงเรียนเพลินพัฒนาได้เห็นคุณค่าของประเพณีที่ดีงาม และนับเป็นประเพณีที่มีคุณค่าต่อ ครอบครัว ชุมชน สังคม จึงจัดเทศกาล "ลมข้าวเบา...เงาเดือนเพ็ญ" ขึ้นในสัปดาห์ที่มีวันลอยกระทงของทุกปี |
| |
| |
 |
เมื่อเดินผ่านรั้วเข้ามาในชุมชนแห่งการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทางวัฒนธรรม
ของโรงเรียนเพลินพัฒนา กิจกรรมของเทศกาลลมข้าวเบานี้
เต็มไปด้วยการแสดงของเด็กๆ และการแสดงของครอบครัว
ซึ่งเกิดจากความตั้งใจและความร่วมมือของนักเรียน
คณะครูและผู้ปกครองเป็นอย่างดี
|
| |
|
| |
|
| ไม่ว่าจะเป็นการแต่งกายที่พร้อมใจกันแต่งชุดที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยตลอดจนร้านค้าต่างๆที่ช่วยกันอุดหนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน นับเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด เมื่อผู้ปกครองต่างพร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมในวันนี้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ในขณะที่เด็กก็ได้แสดงศักยภาพของพวกเขาอย่างเต็มที่โดยที่มีคุณครูคอยดูแลและให้กำลังใจอยู่ข้างๆเวที |
| |
| |
มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ปกครองทุกท่านได้สละเวลามาอยู่กับลูกๆอย่างวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะความคิดเห็นและมุมมองที่ตรงกันในเรื่องลูกว่า
"ผู้ปกครองทุกคนย่อมมีธุระและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่างกันไป แต่ทว่าจะมีธุระอื่นมากมายแค่ไหน ลูกย่อมสำคัญกว่า"
ความคิดและจุดมุ่งหมายที่เห็นตรงกันนี่เอง ได้ทำให้กิจกรรมออกมาสมบูรณ์แบบ และด้วยศักยภาพที่น่าชื่นชม ความกล้าคิด
กล้าแสดงออกของเด็กๆที่ผ่านสายตาผู้ปกครองได้กลายเป็นผลตอบแทนที่น่าประทับใจที่สุดในงาน |
| |
| |
โรงเรียนเป็นพื้นฐานของการพัฒนาสังคม
อ.กรองทอง บุญประคอง ผู้อำนวยการโรงเรียนเพลินพัฒนา กล่าวว่า
“เนื่องด้วยโรงเรียนของเราเชื่อมั่นในแนวคิดที่ว่า “โรงเรียนเป็นพื้นฐานของการพัฒนาสังคม”
ดังนั้นเมื่อโรงเรียนเป็นสถาบันศึกษาและเป็นแหล่งชุมชนอีกแหล่งหนึ่ง
ที่มีความสำคัญกับเด็กเป็นอย่างมาก เราจึงอยากให้ช่วงชีวิตของเด็กๆ
รวมไปถึงคุณครูและผู้ปกครองทุกคนซึ่งถือเป็นคน
ในชุมชนได้ร่วมสนุกในงานรื่นเริง มีวิถีชีวิตที่พบกับความสุขได้ไม่ยาก
อีกทั้งยังเป็นการแสดงความกตัญญูต่อธรรมชาติด้วย” |
 |
| |
|
| |
|
“หากนึกถึงภาพของสังคมในสมัยก่อนที่มีวัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน ไม่ว่าจะจัดงานอะไรก็ตาม ทุกคนต้องไปที่วัด
ดังนั้นเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เราจึงมีความตั้งใจที่จะรวบรวมวิถีชีวิตและกิจกรรมของคนในสมัยก่อนมาไว้ในกิจกรรมนี้
เพราะเราไม่อยากจัดเพียงงานประเพณีลอยกระทงเท่านั้น ซึ่งงานนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่ได้ความร่วมมือจาก
คณะครูและผู้ปกครอง โดยเฉพาะ “ส่วนชุมชนแห่งการเรียนรู้”
หน่วยงานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและผู้ปกครอง ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ ๕
เพื่อระลึกถึงคุณค่าของสายน้ำและธรรมชาติ มีเด็กๆ ผู้ปกครอง และคุณครู ร่วมออกร้านจำหน่ายอาหารคาวหวาน
เครื่องดื่ม สิ่งประดิษฐ์ และของใช้ต่างๆ กว่า ๘๐ ร้าน น่าชื่นใจว่าในจำนวนนี้มีหลายร้านตั้งใจจะนำรายได้
จากการจำหน่ายไปช่วยเหลือสังคม ผ่านองค์กรการกุศลต่างๆ” อ.กรองทองแจกแจง
|
| |
| |
 |
รอยยิ้มครอบครัว
ทางด้านคุณยายสุชาดา ฤาชาฤทธิ์ ผู้ปกครองของด.ช.จุลจักร อำนรรฆมณี (น้องเจเจ)
กล่าวว่า “การที่โรงเรียนได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้ คุณยายรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เห็น
การแสดงของหลานและเด็กๆ เพราะการที่เด็กได้ทำกิจกรรมร่วมกัน
มันทำให้พวกเขาโตขึ้น รู้จักการวางแผนและมีความรับผิดชอบ”
ในขณะที่เจเจกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “โรงเรียนนี้ได้สอนให้เขากล้าแสดงความคิดเห็น
กล้าแสดงออกและมีความสุขทุกครั้งที่ได้ร่วมกิจกรรมเพราะเป็นโอกาสดีสำหรับพวกเราทุกคน
ในการทำกิจกรรมเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณครูที่คอยดูแลในกิจกรรมต่างๆ
พ่อแม่และผู้ปกครองที่ร่วมมือกันสร้างกิจกรรมดีๆ”
|
| |
|
| |
|
| ส่วนคุณแม่สุนีย์ บันโนะ ผู้ปกครองของด.ช.วรรธนะ บันโนะ (น้องโนบุ)และด.ญ.รติมา บันโนะ(น้องมี่จัง) กล่าวว่า กิจกรรมนี้เปรียบเสมือนการเรียนรู้นอกห้องเรียน เริ่มแรกเลยคือต้องคุยกันก่อนว่าอยากทำอะไร ดูศักยภาพลูกด้วยว่าทำอะไรได้ ต้องวางแผน และคอยสอนลูกไปด้วยว่า ต้องตั้งใจทำและจริงจังเพราะไม่ว่าจะลงทุนทำอะไรนั้นย่อมมีต้นทุนเสมอ |
| |
| |
| เราต้องสังเกตความพร้อมของลูก ความเป็นไปได้ในการซื้อขายเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หากเอาสินค้าของแม่มาขายก็ต้องมีการซื้อขายกันจริงๆ ถ้าจะเปิดร้าน ลูกต้องเฝ้าร้าน ร้านเป็นของลูก ไม่ใช่ของแม่ ลูกจะต้องจดรายละเอียดของสินค้า รับผิดชอบร้านค้าในงานนี้ เพราะฉะนั้นงานลมข้าวเบาก็จะเป็นงานของลูก เป็นร้านของลูก เงินที่ลูกขายของได้ก็จะเป็นของเขาทั้งหมด |
| |
| |
ดังนั้นแนวทางนี้ได้ทำให้ลูกมีความรับผิดชอบมากขึ้น กล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าอธิบายสินค้าให้ลูกค้า และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ในระดับหนึ่ง ในขณะที่น้องโนบุเผยว่า “แรกๆก็ไม่กล้า แต่ด้วยหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบบวกกับความตั้งใจเลยผ่านความกลัวและความอายไปได้ เมื่อกล้าที่จะพูดและอธิบาย ขายของได้ก็สนุก แต่ปีหน้าคาดว่าจะต้องตั้งใจทำให้ดีกว่านี้”
|
| |
| |
เทศกาลที่มากกว่าความรื่นเริง
นับตั้งแต่เทศกาลที่เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงบ่าย ร้านค้าต่างๆที่มีแม่ค้าเสียงใส
วัยประถมไปจนถึงบรรดาเหล่าคุณแม่ บนเวทีกลายเป็นพื้นที่ของลูกๆ
ที่รอรับเสียงปรบมือจากผู้ปกครองและคุณครูผู้คอยเอาใจช่วยในการแสดงต่างๆ
แล้ว เมื่อถึงเวลาพลบค่ำ กิจกรรมนันทนาการต่างๆใกล้เสร็จสิ้น
ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีช่วงสุดท้ายของเทศกาลที่เด็กรอคอยนั่นคือ “ประเพณีลอยกระทง” |
|
| |
|
| |
|
| บริเวณเวทีกลางแจ้ง ริมสระน้ำของโรงเรียน ได้กลายเป็นจุดนัดพบของน้องๆอนุบาลไปจนถึงพี่ใหญ่สุดวัยมัธยม ต่างกุลีกุจอนำกระทงมาขอขมาแม่คงคาและลอยกันอย่างสนุกสนาน โดยกระทงที่เด็กแต่ละคนถือมานั้น ล้วนแล้วแต่เป็นกระทงที่ประดิษฐ์เองแม้บางส่วนนั้นมาจากร้านของผู้ปกครองที่นำดอกบัวมาเป็นกระทง |
| |
| |
ท่ามกลางเสียงเพลง เสียงกลอง และเสียงเซ็งแซ่ของเด็กๆในประเพณีไทยครั้งนี้ อาจเป็นอีกวันหนึ่งที่นอกจากมอบความสนุกสนานให้พวกเขาแล้ว ยังเป็นวันที่ทำให้พวกเขาระลึกถึงความสำคัญของวันลอยกระทง 3 ประการคือ สืบสานตามรอยพุทธบูชา ขอขมาพระแม่คงคาและชำระกิเลสทั้งปวง
|
| |
| |
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9510000134441
โดย : ส่วนสื่อสารองค์กร
